ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมชาติอาร์เจนตินา ถูกเลือกให้คว้ารางวัลนักกีฬาชายยอดเยี่ยมประจำปี 2023 ของ ลอริอุส เวิลด์ สปอร์ตส์ อวอร์ดส์ ส่วน คริสเตียน เอริคเซ่น ดาวเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สอยรางวัลคัมแบ็กแห่งปี
ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้ากัปตันทีมชาติอาร์เจนตินา และซูเปอร์สตาร์แห่ง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง คว้ารางวัลนักกีฬาชายยอดเยี่ยมประจำปี 2023 ของ ลอริอุส เวิลด์ สปอร์ตส์ อวอร์ดส์ (Laureus World Sports Awards) โดยงานมอบรางวัลจัดขึ้นที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
เมสซี่ ได้รับการโหวตเอาชนะคู่แข่งอย่าง สเตฟเฟ่น เคอร์รี่ (นักบาสเกตบอล), อาร์มันด์ ดูพลันติส (นักกรีฑา), คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (นักฟุตบอล), ราฟาเอล นาดาล (นักเทนนิส) และ มักซ์ แฟร์สแตปเปน (นักแข่งรถฟอร์มูลา วัน) โดยถือเป็นสมัยที่สอง ที่เจ้าตัวได้รางวัลนี้ต่อจากปี 2020 และยังคงเป็นนักฟุตบอลเพียงคนเดียว ที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติดังกล่าว
นอกจากนี้ ทีมชาติอาร์เจนตินา ของ เมสซี่ ยังถูกเลือกให้คว้ารางวัลทีมกีฬายอดเยี่ยมประจำปีอีกด้วย จากผลงานคว้าแชมป์ ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ติดตามข่าวฟุตบอล
สรุปรางวัลยอดเยี่ยมสาขาต่างๆ
– นักกีฬาชายยอดเยี่ยมแห่งปี : ลิโอเนล เมสซี่ (นักฟุตบอล)
– นักกีฬาหญิงยอดเยี่ยมแห่งปี : เชลลี-แอนน์ เฟรเซอร์-ไพรส์ (นักกรีฑา)
– ทีมกีฬายอดเยี่ยมแห่งปี : ฟุตบอลทีมชาติอาร์เจนตินา
– นักกีฬาที่มีพัฒนาการยอดเยี่ยมแห่งปี : การ์ลอส อัลการาซ (นักเทนนิส)
– นักกีฬาคัมแบ็กยอดเยี่ยมแห่งปี : คริสเตียน เอริคเซ่น (นักฟุตบอล)
– นักกีฬาพิการยอดเยี่ยมแห่งปี : แคทเธอรีน เดบรุนเนอร์ (นักกีฬาวีลแชร์)
– นักกีฬาแอ็กชัน (กีฬาทางเลือก) ยอดเยี่ยมแห่งปี : ไอลีน กู (นักสกีฟรีสไตล์)นักกีฬาชายยอดเยี่ยมแห่งปี : ลิโอเนล เมสซี่ (นักฟุตบอล)– นักกีฬาคัมแบ็กยอดเยี่ยมแห่งปี : คริสเตียน เอริคเซ่น (นักฟุตบอล)
เบนเซม่า วัดคม ฮาลันด์! คาด 11 ตัวจริงเกมหยุดโลก “เรอัล มาดริด VS แมนเชสเตอร์ ซิตี้”
– ผู้รักษาประตู : ติโบต์ กูร์กตัวส์
เกมใหญ่ๆ แบบนี้ ขาดเจ้าตัวไม่ได้แน่นอน
– แบ็กโฟร์ : ดานี่ การ์บาฆาล, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, ดาวิด อลาบา, เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า
เอแดร์ มิลิเตา ติดโทษแบน ดังนั้นคู่เซนเตอร์แบ็กน่าจะเป็น รือดิเกอร์ กับ อลาบา ส่วนแบ็กขวาเป็น การ์บาฆาล เหมือนเดิม เช่นเดียวกับ กามาวินก้า ในตำแหน่งแบ็กซ้าย เนื่องจาก แฟร์กล็องด์ เมนดี้ ยังมีปัญหาบาดเจ็บ
– แดนกลาง : เฟเดรีโก้ วัลเวร์เด้, ลูก้า โมดริช, โทนี่ โครส
โมดริช น่าจะฟิตพอลงเล่นตั้งแต่วินาทีแรก โดยจะประสานงานกับ โครส และ วัลเวร์เด้ เหมือนเดิม ส่วน โอเรเลียง ชูอาเมนี่ คงต้องหลุดไปนั่งสำรอง หลังจากได้เล่นตัวจริงในเกม โกปา เดล เรย์ รอบชิงชนะเลิศ ที่ชนะ โอซาซูน่า 2-1 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
– แนวรุก : โรดรีโก้, คาริม เบนเซม่า, วินิซิอุส จูเนียร์
กุนซือ คาร์โล อันเชลอตติ สามารถจัดแนวรุกชุดที่ดีที่สุด โดยกัปตัน เบนเซม่า เล่นเป็นหน้าเป้า ขนาบข้างซ้าย-ขวาด้วย วินิซิอุส และ โรดรีโก้ ที่เพิ่งโชว์ฟอร์มเด็ดดวง เหมาสองตุงในเกมรอบชิงฯ โกปา เดล เรย์
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ระบบ 3-3-3-1 หรือ 3-2-4-1)
– ผู้รักษาประตู : เอแดร์ซอน
นายทวารเลือดแซมบ้าวัย 29 ปี ไม่มีปัญหาเรื่องความฟิต เตรียมลงเล่นเป็นนัดที่ 44 ในฤดูกาลนี้
– แนวรับสามคน : ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, มานูเอล อาคันจี
ดิอาส ซึ่งได้พักในเกมลีกนัดล่าสุดที่ แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านเชือด ลีดส์ ยูไนเต็ด 2-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้กลับมาสตาร์ทเป็นตัวจริงแน่นอน เช่นเดียวกับ วอล์คเกอร์ ที่ลงเป็นตัวสำรองในเกมกับ “ยูงทอง” ส่วน อาคันจี ก็น่าจะได้รับโอกาสต่อเนื่องจากกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า โดยจะยืนเป็นกองหลังฝั่งซ้าย ส่วน นาธาน อาเก้ ไม่มีชื่ออยู่ในทีมชุดนี้ เพราะมีปัญหาบาดเจ็บรบกวน ขณะที่ เอมเมอริค ลาปอร์กต์ คงมีชื่อแค่เป็นตัวสำรอง
– แดนกลาง : จอห์น สโตนส์, อิลคาย กุนโดกัน, โรดรี้
สโตนส์ เป็นอีกคนที่ได้พักมาเต็มๆ จากเกมเมื่อวันเสาร์ ดังนั้นเกมนี้เจ้าตัวจะได้ลงเล่นตั้งแต่วินาทีแรกแน่นอน โดยจะเล่นร่วมกับ โรดรี้ ที่จะได้สตาร์ทเป็นตัวจริงอีกครั้ง หลังจากลงสนามเป็นตัวสำรองในเกมที่ชนะ ลีดส์ และ กุนโดกัน ที่เหมาทำสองประตูในเกมล่าสุด
– สามตัวรุก : แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์, แจ็ค กรีลิช
เป็นอีกหนึ่งจุดที่ กวาร์ดิโอล่า สามารถจัดเต็มได้อีกครั้ง โดย ซิลวา กับ กรีลิช คงได้กลับมาเป็นตัวจริงแทน ริยาด มาห์เรซ กับ ฟิล โฟเด้น เช่นเดียวกับ เดอ บรอยน์ ที่เพิ่งฟิตกลับมาลงเล่นในเกมกับ ลีดส์ หลังจากที่พลาดช่วยทีมสองนัดติด
– หัวหอกตัวเป้า : เออร์ลิง ฮาลันด์
ตำแหน่งนี้จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ฮาลันด์ ที่ฤดูกาลนี้กดไปแล้วถึง 51 ประตู จากการลงเล่นรวมทุกรายการ 46 นัด ส่วน ฮูเลียน อัลวาเรซ รอเป็นตัวทีเด็ดจากม้านั่งสำรอง